Site icon Go Out ไปเที่ยวกันเถอะ

สามชุก ตลาดร้อยปี

Photo by teeradondon from commons.wikimedia.org/wiki/File:ตลาดสามชุกร้อยปี_001.jpg [CC by 2.0]

สามชุด ตลาดร้อยปี: ตลาดชุมชนริมน้ำท่าจีนอายุกว่า 100 ปี เพลินเพลินกับการชมวิวบ้านเรือนโบราณ พร้อมรับประทานอาหารและเดินซื้อของในตลาด ที่ขายทั้งสินค้าโบราณและสินค้าร่วมสมัย ดื่มกาแฟในร้านกาแฟที่จัดบรรยากาศแบบโรงโกปี๊โบราณ และค้างแรมหรือชมบรรยากาศโรงแรม 100 ปี พร้อมชมพิพิธภัณฑ์ชุมชน บ้านขุนจำนง จีนารักษ์ที่จัดแสดงเครื่องเรือนโบราณและสถาปัตยกรรมวิถีไทยที่หาดูได้ยากยิ่ง

ตลาดที่เรียกกันว่าตลาดสามชุก หรือตลาดสามชุกร้อยปี มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ‘สามชุก ตลาดร้อยปี’ โดยแต่เดิมเป็นห้องแถวริมแม่น้ำท่าจีน ผู้ที่อยู่อาศัยละแวกนี้โดยมากเป็นชาวจีนทำอาชีพค้าขาย บริเวณนี้จึงเกิดเป็นตลาดขึ้น และเพราะอยู่ในอำเภอสามชุก ผู้คนจึงเรียกว่าตลาดสามชุก

ตลาดสามชุกเป็นตลาดสังคมริมน้ำ ลูกค้าโดยมากคือผู้สัญจรทางน้ำ ทว่าในปี พ.ศ. 2510 เกิดการพัฒนาการคมนาคมทางบกและตัดถนนหลายสาย ทำให้การคมนาคมทางน้ำซบเซา ตลาดจึงเงียบเหงาลงไปด้วย ทำให้พ่อค้าแม่ขายเริ่มทะยอยออกจากชุมชน คนสมัยใหม่เริ่มไปหางานทำที่อื่น กระทั่งใน ปี พ.ศ. 2543 มีการตั้งคณะกรรมการตลาดพัฒนาตลาดสามชุกเชิงอนุรักษ์ขึ้นมา โดยมุ่งฟื้นฟูตลาดสามชุกโดยรงภาพลักษณ์วิถีไทยเอาไว้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเมืองสุพรรณ สมกับคำขวัญที่ว่า ‘ตลาดมีชีวิต พิพิธภัณฑ์มีชีวา’

สิ่งที่น่าสนใจภายในตลาด

  1. พิพิธภัณฑ์ชุมชน บ้านขุนจำนง จีนารักษ์ พิพิธภัณฑ์ชุมชนแห่งนี้อยู่ในบ้านโบราณของขุนจำนง จีนารักษ์ ตลาดสามชุกซอย 2 โดยขุนจำนงจีนารักษ์ หรือหุย แซ่เฮง ได้รับราชการในตำแหน่งนายอากรสุรา – ฝิ่น ได้รับพระราชทานศักดินา 400 ไร่จากในหลวงรัชกาลที่ 7 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 ขุนจำนงเสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2517 ทาบาทของท่านได้มอบบ้านหลังนี้ให้กับกรรมการพัฒนาตลาดสามชุกปรับปรุงและจัดแสดงเครื่องใช้โบราณ

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2547ชั้นล่างเป็นโมเดลตลาดสามชุก ชีวิตชุมชนริมน้ำท่าจีน ตลอดจนภาพวาดให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติตลาดสามชุก ส่วนชั้นสองเป็นที่จัดแสดงภาพและประวัติขุนจำนง จีนารักษ์ นายอากรคนแรกของตลาดสามชุก อีกทั้งยังมีเครื่องเรือนเก่าที่อยู่คู่บ้านมากว่า 100 ปีจัดแสดงเอาไว้ด้วย ความขลังของบ้านหลังนี้เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะพลาดชมไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องโบราณนำเข้าจากอิตาลี่ หน้าต่างบานกระทุ้งและราวระเบียงไม้ฉลุที่หาดูที่ใดไม่ได้อีกแล้ว

  1. อาหาร ตลาดสามชุกมีอาหารมากมายขาย ทั้งอาหารไทยโบราณและอาหารตามสมัยนิยม ที่น่าลิ้มลองเช่น น้ำตาลสดเสริฟในกระบอกไม้ไผ่หรือใบลาน ขนมไข่ปลาโบราณ ลูกชิ้นหมูยักษ์ ไอติมที่ใช้น้ำหวานใส่กระบอกเขย่าในน้ำแข็ง รวมถึงปลาสลิดของดีขึ้นชื่อเมืองสุพรรณ ส่วนร้านกาแฟโดดเด่นของที่นี่ คือ ร้านกาแฟท่าเรือส่ง ที่จัดบรรยากาศแบบเก่าราวกับนั่งจิบกาแฟในโรงโกปี๊ยุค 2470
  2. โรงแรมอุดมโชค เป็นโรงแรมเดียวในตลาดสามชุก ตั้งอยู่ในตลาดสามชุกซอย 2 เป็นโรงแรมที่เปิดให้บริการมากว่า 70 ปีที่ยังคงบรรยากาศแบบดั้งเดิมเอาไว้ ลักษณะเป็นห้องแถว 2 ชั้น ชั้นบนมีห้องนอนใหญ่ 1 ห้องและห้องเล็กอีก 6 ห้อง ห้องน้ำรวม แยกสุขากับห้องอาบน้ำ หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากที่ไกลๆ ไม่สามารถกลับได้ภายในคืนเดียว จะลองค้างแรมที่นี่เพื่อสูบกลิ้นอายโรงแรมโบราณก็ได้บรรยาดกาศไปอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน
  3. เครื่องใช้โบราณ ที่ตลาดสามชุกมีเครื่องใช้โบราณจำหน่าย เช่น ตะเกียงเจ้าพายุ ช้อนเคลือบสี หม้อเคลือบสีสำหรับเก็บน้ำมัน หากใครต้องการเก็บสะสมของเหล่านี้ ไม่รู้จะหาที่ไหน มาตามหาได้ที่นี่
  4. ของที่ระลึก นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อของที่ระลึก เช่น เสื้อสกรีนลายตลาดสามชุกได้ 2 จุดใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 1. ศูนย์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว และ ศูนย์จำหน่ายของที่ระลึก ชุมชนสามชุก ตลาด 100 ปี นอกจากนี้ก็ยังมีร้านขายของที่ระลึกกระจายตัวอยู่ในตลาดอีกด้วย
  5. จุดเซลฟี่ จุดเซลฟี่ที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ คือ การเซลฟี่กับตลาดบนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ที่จะทำให้คุณได้ภาพวิวมุมสูงของตลาดนั่นเอง
Exit mobile version